ฟักข้าว (Gac) ผลไม้พื้นบ้านที่ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในซุปเปอร์ฟรุต (Superfruit) ฟักข้าว (Gac) มีชื่อวิทยาศาสตร์คือ Momordica cochinchinensis Spreng. เป็นพืชไม้เลื้อยพื้นบ้านที่สามารถพบได้ในประเทศเขตร้อน เช่น แถบเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงเวียดนาม จีน ไทย และอินเดีย และถูกเรียกชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ฟักข้าวนั้น ถูกพิจารณาจัดอยู่ในกลุ่มผลไม้ที่เป็นซุปเปอร์ฟรุต (superfruit) เนื่องด้วยเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) รวมถึงสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูง เช่น วิตามิน แร่ธาตุ เส้นใย รวมถึงสารพฤกษเคมี (phytonutrients) อื่นๆ เป็นต้น นับตั้งแต่อดีตในแถบเอเชียฟักข้าวถูกใช้เป็นสีผสมอาหารธรรมชาติในตำหรับอาหารพื้นเมือง นอกจากนี้ เมล็ดของฟักข้าวยังถูกนำมาใช้ในตำหรับยาแผนโบราณในการรักษาโรคต่างๆ เช่น ภาวะเต้านมอักเสบ (mastitis) ฝีหนอง (boils) และผิวหนังอักเสบเป็นหนอง (pyodermas) เป็นต้น (Huang et al., 1999; Zhao et al., 2012) ในผลของฟักข้าวโดยเฉพาะส่วนเปลือก และเยื่อหุ้มเมล็ดเป็นส่วนที่อุดมไปด้วยสารสำคัญต่างๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะสารพฤกษเคมีในกลุ่มแคโรทินอยด์ (carotenoids) เช่น เบต้า-แคโรทีน (β-carotene) ไลโคปีน (lycopene) และลูทีน (lutein) ซึ่งมีสรรพคุณที่โดดเด่นในการใช้บรรเทาอาการป่วยเกี่ยวกับตา (eye diseases) ที่มีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินเอ มะเร็งบางชนิด (cancers) โรคหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular diseases) สารกลุ่มแคโรทินอยด์เหล่านี้ยังสามารถทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย (Aoki et al., 2002; Chuyen et al., 2015; Do et al., 2019; Kubola and Siriamornpun, 2011; Niizu and Rodriguez-Amaya, 2005) มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าฟักข้าวมีปริมาณเบต้า-แคโรทีน และไลโคปีนสูงกว่าทั้งแครอท และมะเขือเทศซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพืชที่มีปริมาณของแคโรทีนอยด์เหล่านี้สูง (Müller-Maatsch et al., 2017) ยิ่งไปกว่านั้นแล้วในผลของฟักข้าวก็ยังพบแคโรทินอยด์อื่นๆ เช่น ซีแซนทีน (zeaxanthin) และเบต้า-คริปโตแซนทีน (β-cryptoxanthin) (Aoki et al., 2002) ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมให้ฟักข้าวเป็นผลไม้ที่มีศักยภาพทางโภชนเภสัช (Nutraceuticals) ที่สูงอีกด้วย นอกจากนี้ ในหลายงานวิจัยยังพบว่า ผลสดของฟักข้าวยังประกอบไปด้วยน้ำมันเข้มข้นสูงซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญของกรดไขมันที่สำคัญหลายชนิด ในงานวิจัยเหล่านี้พบทั้งกรดสเตียริก (stearic acid) กรดลิโนเลอิก (linoleic acid) กรดโอเลอิก (oleic acid) และกรดปาล์มิติก (palmitic acid) ในส่วนของเหยื่อหุ้มเมล็ด และในเมล็ดฟักข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดโอเลอิก และกรดลิโนเลอิก ที่เป็นกรดไขมันสำคัญที่มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพในการลดแอลดีแอล-คอเลสเตอรอล (LDL-cholesterol) และฤทธิ์ต้านการเกิดออกซิเดชันของไขมัน (anti-atherogenic effects) (Lopez-Huertas, 2010; Pariza, 2004) ส่งผลให้ร่างการดูดซึมไขมันเลวได้น้อยลงและดูดซึมไขมันดีได้ดีขึ้น ในฟักข้าวยังอุดมไปด้วยสารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามินอี และสารพฤกษเคมีกลุ่มอื่นๆ เช่น สารกลุ่มฟีนอลิก (phenolic compounds) (Bharathi et al., 2014; Do et al., 2019; Kubola and Siriamornpun, 2011) ที่มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระที่มักจะพบในผักผลไม้สีเขียวด้วยเช่นกัน ด้วยการที่ฟักข้าวเป็นแหล่งของสารอาหารและสารโภชนเภสัชที่หลากหลายและมีศักยภาพสมกับที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในซุปเปอร์ฟรุต จึงไม่น่าแปลกใจที่สารสกัดน้ำมันฟักข้าวเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมที่ตลาดได้ให้ความสนใจและถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเติบโตขึ้นในอนาคต เอกสารอ้างอิง - Zhao, L.-M., Han, L.-N., Ren, F.-Z., Chen, S.-H., Liu, L.-H., Wang, M.-X., Sang, M.-X., Shan, B.-E., 2012. An Ester Extract of Cochinchina Momordica Seeds Induces Differentiation of Melanoma B16 F1 Cells via MAPKs Signaling. Asian Pacific J. Cancer Prev. 13, 3795–3802. |